
Beavis and Butt-Head ชิดซ้าย Team America ชิดขวา เมื่อต้องเจอกับหนังอนิเมชั่นสุดหยาบเรื่องนี้ โดยที่ดูแค่โปสเตอร์มันก็รู้ได้แล้วว่ามันไม่ธรรมดา เมื่อมันพาดพิง เสียดสี ล้อเลียน และตีแผ่ยุคสมัย1960-1970 ของสังคมอเมริกัน โดยผ่านบรรดาตัวละครที่เป็นสัตว์ และมีตัวนำอย่างเจ้าแมว ฟริทซ์
อนิเมชั่นที่มีทั้งความรุนแรงทางด้านเพศ เหยียดสีผิว เชื้อชาติ และศาสนา มันสะท้อนถึงชีวิตคนหนุ่มสาวในยุค 60 ที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ อย่างการมีเซ็กหมู่ เรื่องของยาเสพติด ที่พวกมันเมามายกันได้ทั้งวัน และการดูถูกเหยียดหยามศาสนาอย่างไม่มีชิ้นดี ด้วยการดูถูกพวกชาวยิวในสุเหร่า และมีตัวละครที่เป็นพระเจ้าอยู่ในถังขยะ จนทำให้มันได้เรท X ไปครอง โดยตัวเรื่องและตัวละครนั้นได้หยิบยกมาจากงานของ โรเบิร์ท คัมพ์ นักเขียนการ์ตูนชาวอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน โดยที่เรื่องแรกคือ Fritz the Cat นั้นเป็นผลงานการกำกับของ ราฟ บาคชิ ในปี 1972 ซึ่งถือว่าล่วงเลยจากยุคบุปผาชนมาไม่นาน
สำหรับภาคต่อมา The Nine Lives of Fritz the Cat ถูกสร้างออกมาในปี 1974 โดยผู้กำกับ โรเบิร์ต เทย์เลอร์ ที่ถึงแม้จะดูลดดีกรีความหยาบคายลงบ้าง จนได้เรท R แต่ประเด็นการเสียดสี และล้อเลียนดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อมันพูดถึงทั้งการตกงานของประชาชน เหตุการณ์บ้านเมืองด้วยการวิพากษ์วิจารณ์คดีวอร์เตอร์เกท การทำสงครามเวียดนาม หรือการที่เจ้าฟริทซ์ต้องไปเป็นจิตแพทย์ประจำตัวให้กับฮิทเลอร์ โดยทั้งหมดนั้นผ่านมุมมองการเมายาของมัน และการเข้าสู่จินตนาการถึงการมี 9 ชีวิต และท่องไปยังเรื่องราวต่างๆ ที่พร้อมจะตีแผ่ และเสียดสีสังคม อย่างหยาบคาย และรุนแรง ด้วยความโด่งดังและวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงๆ ของมัน ทำให้มันได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำ ในเทศกาลหนังเมืองคานน์ในปี 1974 เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าหนังทั้ง 2 เรื่องจะมีลายเส้นที่ไม่ได้สวยงาม วิจิตรอย่างในอนิเมชั่นยุคปัจจุบัน แต่มันเต็มไปด้วยความรุนแรง และดิบเถื่อนอย่างที่ผ่านไปกี่ยุคสมัย ก็ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากมือเด็ก และพวกมองโลกในแง่ดีที่เกลียดกลัวการเสียดสี หยาบคายแบบตรงไปตรงมา
อนิเมชั่นที่มีทั้งความรุนแรงทางด้านเพศ เหยียดสีผิว เชื้อชาติ และศาสนา มันสะท้อนถึงชีวิตคนหนุ่มสาวในยุค 60 ที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ อย่างการมีเซ็กหมู่ เรื่องของยาเสพติด ที่พวกมันเมามายกันได้ทั้งวัน และการดูถูกเหยียดหยามศาสนาอย่างไม่มีชิ้นดี ด้วยการดูถูกพวกชาวยิวในสุเหร่า และมีตัวละครที่เป็นพระเจ้าอยู่ในถังขยะ จนทำให้มันได้เรท X ไปครอง โดยตัวเรื่องและตัวละครนั้นได้หยิบยกมาจากงานของ โรเบิร์ท คัมพ์ นักเขียนการ์ตูนชาวอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน โดยที่เรื่องแรกคือ Fritz the Cat นั้นเป็นผลงานการกำกับของ ราฟ บาคชิ ในปี 1972 ซึ่งถือว่าล่วงเลยจากยุคบุปผาชนมาไม่นาน
สำหรับภาคต่อมา The Nine Lives of Fritz the Cat ถูกสร้างออกมาในปี 1974 โดยผู้กำกับ โรเบิร์ต เทย์เลอร์ ที่ถึงแม้จะดูลดดีกรีความหยาบคายลงบ้าง จนได้เรท R แต่ประเด็นการเสียดสี และล้อเลียนดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อมันพูดถึงทั้งการตกงานของประชาชน เหตุการณ์บ้านเมืองด้วยการวิพากษ์วิจารณ์คดีวอร์เตอร์เกท การทำสงครามเวียดนาม หรือการที่เจ้าฟริทซ์ต้องไปเป็นจิตแพทย์ประจำตัวให้กับฮิทเลอร์ โดยทั้งหมดนั้นผ่านมุมมองการเมายาของมัน และการเข้าสู่จินตนาการถึงการมี 9 ชีวิต และท่องไปยังเรื่องราวต่างๆ ที่พร้อมจะตีแผ่ และเสียดสีสังคม อย่างหยาบคาย และรุนแรง ด้วยความโด่งดังและวิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงๆ ของมัน ทำให้มันได้เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำ ในเทศกาลหนังเมืองคานน์ในปี 1974 เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าหนังทั้ง 2 เรื่องจะมีลายเส้นที่ไม่ได้สวยงาม วิจิตรอย่างในอนิเมชั่นยุคปัจจุบัน แต่มันเต็มไปด้วยความรุนแรง และดิบเถื่อนอย่างที่ผ่านไปกี่ยุคสมัย ก็ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากมือเด็ก และพวกมองโลกในแง่ดีที่เกลียดกลัวการเสียดสี หยาบคายแบบตรงไปตรงมา